
ยานเเต่ละลำจะมีโบนัส เเละ Slot ที่ต่างกัน บางลำโบนัสจะไปเพิ่มให้ Armor เเละ บางลำจะเพิ่มให้ Shield ควร fit ให้เหมาะกับยานเเละการชนิดการ Tank เเละ ควรเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหวาง Armor Tank หรือ Shield Tank เพราะถ้าใช้ทั้ง 2 ยานจะกึ่งๆ ไม่เต็มประสิทธิภาพ
การเลือกยานก็ควรดูที่ Resis เริ่มต้นด้วย ว่าอ่อนแอไปทางใหน เราก็ทำการโมยานให้จุดอ่อนนั้นน้อยลง







รูปแบบของความเสียหายในเกม
EM
Electro Magnetic Waves - ความเสียหายเเบบคลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้า
ใช้การรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้าในการทำความเสียหายเป้าหมาย
TH
Thermal - ความเสียหายเเบบความร้อน
ใช้ความร้อนในการหลอมละลายเป้าหมาย


TH


KN
Kinetic - ความเสียหายเเบบเเรงจลศาสตร์
เกิดจากความเร็ว + เเรงอัดจากหัวกระสุนในทิศทางตรงเเละมีผลทะลุทะลวงสิ่งขีดขวาง
EX
Explosion - ความเสียหายเเบบระเบิด
ระเบิดเกิดการขยายตัวโดยรอบของสสารพลังงาน เกิดการขยายตัวโดยรอบของสสารพลังงาน


EX



ชีล เกราะชั้นเเรกของยาน ซึ่งเป็นเกราะที่ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากวัสดุ เเต่เป็นเกราะจากการสร้างสนามพลัง(Force Field) ของยานที่มาช่วยรับความเสียหาย ตัวยานสามารถรีเจนเกราะชั้นนี้ได้เเบบอัตโนมัติ
ดาเมจที่เกิดครั้งเเรกทุกครั้งจะถูกรับโดย Shield ก่อน เมื่อ Shield หมด ดาเมจก็จะไปเกิดกับเกราะชั้นที่สองคือ Armor
อัตราการรีเจน Shield ขึ้นอยู่กับสภาพของ Shield ถ้า Shield ตํ่ากว่า 30% อัตราการรีเจนจะมากที่สุด หาก Shield ตํ่ากว่า 25% ดาเมจจะมีการทะลุไปยังชั้น Armor โดยตรง ขึ้นอยู่กับสกิล Tactical Shield Manipulation โดยสกิลนี้จะช่วยลบข้อจำกัดนี้ออกไป
เกราะชั้นนี้จะทนทานต่อความเสียหายเเบบ ระเบิด EX
เเต่จะอ่อนเเอกับความเสีหายเเบบ คลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้า EM
ดาเมจที่เกิดครั้งเเรกทุกครั้งจะถูกรับโดย Shield ก่อน เมื่อ Shield หมด ดาเมจก็จะไปเกิดกับเกราะชั้นที่สองคือ Armor
อัตราการรีเจน Shield ขึ้นอยู่กับสภาพของ Shield ถ้า Shield ตํ่ากว่า 30% อัตราการรีเจนจะมากที่สุด หาก Shield ตํ่ากว่า 25% ดาเมจจะมีการทะลุไปยังชั้น Armor โดยตรง ขึ้นอยู่กับสกิล Tactical Shield Manipulation โดยสกิลนี้จะช่วยลบข้อจำกัดนี้ออกไป
เกราะชั้นนี้จะทนทานต่อความเสียหายเเบบ ระเบิด EX

เเต่จะอ่อนเเอกับความเสีหายเเบบ คลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้า EM


เกราะชั้นที่สองเรียกว่า Armor ซึ่งเกราะชั้นนี้เป็นเกราะที่เป็นวัสดุหรือโล่นั่นเองที่มาคอยรับความเสียหายหลังจากเกราะชั้นเเรกหมด เกราะชั้นนี้ไม่สามารถรีเจนตัวเองได้ต้องใช้โมดูลในการช่วยรีเจน หรือ ต้องเอายานไปใช้บริการซ่อมที่สถานี เมื่อเกราะชั้น Armor หมด ดาเมจก็จะไปเกิดขึ้นกับ Structure ที่เป็นตัวยาน
เกราะชั้นนี้จะทนทานต่อความเสียหายเเบบ คลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้า EM

เเต่จะอ่อนเเอกับความเสียหายเเบบ ระเบิด EX


Hull หรือ Structure หรือ เนื้อของยานนั่นเองเมื่อ Armor เเละ Shield หมดดาเมจก็จะมาเกิดขึ้นที่ตัวยานโดยตรงโดยที่ตัว Structure นี้ จะมีค่าการป้องกันเล็กน้อย เมื่อเกราะชั้นนี้หมดยานจะระเบิดเเละ Eject Capsule ผู้เล่นออกมา







































































ชนิดของการ Fit Tank เเบบต่างๆที่นิยมใช้ในเกม
Active Tank



เป็นการใช้พลังงานของยานเพื่อทำให้โมดูล








Buffer Tank


เน้นใส่ของเพิ่ม Resis เเละ เพิ่ม MAX HP เพิ่มเลือดให้เยอะที่สุด ไม่มีการีเจน สามารถทำได้ทั้ง 3 ชั้น เเต่ส่วนใหญ่นิยมใช้ในชั้น Armor เพราะชั้น Armor จะมี Base Resis ที่สูงกว่า Shield เล็กน้อย. เหมาะสำหรับ PVP เเละสามารถใช้ยาน Logi ในการ Remote Tank ให้


Remote Tank (Spider Tank)


ต้องใช้ยานมากกว่า 1 ลำในการใช้โมดูล
Remote Shield &
Remote Armor เเละ
Remote Capacitor ในการฮีลเเละส่งพลังงานให้เเก่กันพวกยานสาย Healer (Logi) สามารถติดโมดูลอัพเกรดได้มาก จะใช้ในกองยานรบซะส่วนใหญ่



ต้องใช้ยานมากกว่า 1 ลำในการใช้โมดูล







Passive Shield Tank

ทำได้เเค่เฉพาะสาย Shield Tank ใส่ของเพิ่มประสิทธิภาพในการรีเจนเกราะเเบบอัตโนมัติ (Passive Regen) ให้เเก่ Shield เช่นพวก





Speed Tank

เป็นการ Tank ที่เเตกต่างจากปกติเล็กน้อย คือจะไม่เน้นยืนรับมาเมจโดยตรงเเต่จะใช้ Afterburner หรือ Microwarpdrive ในการบินหลบ หรือ บินออกจากระยะยิงของปืนศัตรู จะช่วยลดดาเมจที่ได้รับลง ปกติจะใส่ของเพิ่มการรีเจนไปเล็กน้อย เเต่ใช้อุปกรณ์เยอะ จึงทำให้ fit ได้ลำบาก
ข้อดี สามารถบินออกนอกระยะของอาวุธชนิดต่างๆไปอยู่ในระยะที่ปลอดภัยได้




ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น